ระบบ Proxy หรือ Caching system เป็นระบบที่มีความสำคัญสำหรับการช่วยเร่งความเร็วในการเปิดเวบไซต์ต่าง ๆ สำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้เครือข่ายจำนวนมาก มีโปรแกรม opensource ที่นิยมนำมาทำเป็น proxy server คือ โปรแกรม squid3 ซึ่งเมื่อนำโปรแกรม squid มาลงแล้วนั้นอาจจะต้องมีการปรับแต่งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ของเรา เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการปรับแต่งระบบสำหรับการทำ proxy นั้นมีการปรับค่าต่าง ๆ ซึ่งผมให้ความสนใจ ดังนี้ครับ

1. พาติชั่นสำหรับทำการ Caching

ถ้าเป็นไปได้ควรแยกพาติชั่นสำหรับทำการ caching แยกออกจากพาติชั่นของระบบครับ ใน Linux นั้น พาติชั่นที่เหมาะ จะใช้ทำ caching ควรจะใช้ file system ชนิด reiserFS ครับ รองลงมาก็ ext3 อันนี้ผมอ่านจากในอินเตอร์เน็ตนะ ครับ รายละเอียดมันซับซ้อนว่าทำไมถึงเร็วกว่า ผมขอละเหตุผลตรงนี้เลยละกันครับ โดยผมสมมุติว่า ผมได้เตรียม พาติชั่น /dev/sdb1 สำหรับทำ caching ไว้ ผมก็ต้องทำการฟอร์แมตให้เป็น reiserFS ดังนี้ครับ

จากนั้นไปแก้ในไฟล์ /etc/fstab เพื่อให้ระบบรู้จักพาติชั่นนี้ครับ โดยผมจะกำหนดให้ชื่อ /cache ดังนี้ครับ

File : /etc/fstab

2.ทำการปรับแต่งไฟล์ /etc/squid3/squid.conf ให้เหมาะสมกับเครื่อง proxy ของเรา

โดยจะมีพารามิเตอร์สำหรับการปรับแต่งที่ผมสนใจดังนี้ครับ

cache_dir เป็นพารามิเตอร์สำหรับกำหนดไดเรคทอรี่ที่ใช้ทำการ caching โดย ufs จะเป็นไฟล์ฟอร์แมตในการเก็บ ข้อมูลของ squid ซึ่งมีหลายแบบแต่ผมก็ใช้แบบเดิม ต่อมา /cache คือให้เก็บที่ไดเร็คทอรี่อะไร ถัดมา 100000 คือ ขนาดของ caching มีหน่วยเป็น Mb โดยมีคำแนะนำว่าให้กำหนดไม่เกิน 80 % ของขนาดของไดเร็คทอรี่ที่เป็น caching ส่วนเลข 16 และ 256 เป็นการกำหนดการสร้างไดเรคทอรี่ L1 และ L2 สำหรับเก็บข้อมูล cache ซึ่งผมมักจะไม่เปลี่ยน

http_port เป็นการกำหนดพอร์ตสำหรับการทำ proxy ซึ่งค่าปกติคือพอร์ต 3128 แต่ผมกำหนดให้เป็นพอร์ต 8080

cache_mem เป็นการกำหนดขนาดของหน่วยความจำหลัก(RAM) สำหรับการ caching ซึ่งการกำหนดค่านี้เราต้อง พิจารณาหน่วยความจำหลักที่มีและขนาดของ cache_dir ที่เรากำหนด โดยใน squid จะทำการจองหน่วยความจำ สำหรับการจัดการ cache_dir ขนาด 1Gb ต่อหน่วยความจำหลัก 10Mb ถ้าเรากำหนด cache_dir ขนาด 100G มันต้องใช้หน่วยความจำหลักขนาด 100*10 Mb = 1Gb ถ้าผมมีหน่วยความจำหลักขนาด 2 G และ OS ใช้ไปซัก 256 Mb ผมจะมีหน่วยความจำหลักสำหรับ caching ประมาณ 2Gb - 1Gb - 256Mb = 768M ซึ่งการปรับแต่งตรง นี้ผมมักจะไม่ปรับมาก เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องหน่วยความจำครับ เลยตั้งไว้ที่ 32Mb ก่อน

maximum_object_size_in_memory เป็นการกำหนดขนาดของ object ที่ใหญ่สุดที่จะเก็บในหน่วยความจำหลัก ครับ

memory_replacement_policy เป็นการกำหนดว่าให้นำ object ออกจากหน่วยความจำหลักนั้น ใช้วิธีการใดใน การพิจารณา ซึ่งปกติจะเป็น lru แต่เค้าแนะนำว่าควรใช้ heap LFUDA จะดีกว่า ซึ่งเป็นวิธีพิจารณาเก็บ object ที่ popular มากที่สุดไว้ ส่วน object ไหนที่ไม่ pop ก็ให้เอามันออกซะ อิอิ

cache_replacement_policy เป็นการพิจารณาในการนำ object ออกจาก cache_dir ครับ โดยมีวิธีเช่นเดียวกับ memory_replacement_policy ครับ

maximum_object_size เป็นขนาดของ object ที่ใหญ่ที่สุดที่จะเก็บใน cache_dir ครับ ถ้าเราตั้ง cache_dir ไว้เยอะก็อาจจะตั้งค่า maximum_object_size ไว้ใหญ่ขึ้นได้ เพื่อการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่จะได้เร็วขึ้นใน กรณีที่หลาย ๆ คนโหลดไฟล์ขนาดใหญ่บ่อย ๆ และซ้ำ ๆ กันครับ

เอาละครับ แค่นี้ก็พอช่วยให้ระบบ proxy มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วครับ ซึ่งในรายละเอียดการปรับแต่งนั้น ยังมีความซับซ้อนอีกเยอะให้ปรับแต่งครับ โดยอาจจะเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ :)

http://www.squid-cache.org/